1. การซื้อขายตามแนวโน้มกลาง

การเพิ่มการซื้อขายตามทิศทางของแนวโน้มที่มีความมั่นคง

2. การซื้อและขายในแนวโน้มที่แตกต่างกัน

ในแนวโน้มขาขึ้นให้ซื้อเมื่อราคาเริ่มดิ่งลง; ในแนวโน้มขาลงให้ขายเมื่อราคาเริ่มดีดขึ้น

3. การใช้ประโยชน์จากผลกำไร

พยายามให้ผลกำไรเติบโตเต็มที่และจำกัดการขาดทุนให้อยู่ในวงแคบ

4. การตั้งคำสั่งหยุดขาดทุน

ต้องตั้งคำสั่งหยุดขาดทุนเพื่อป้องกันการขาดทุนที่มากเกินไปเสมอ

5. วางแผนการซื้อขาย

อย่าตัดสินใจซื้อขายตามอารมณ์ ควรวางแผนอย่างรอบคอบ

6. การปฏิบัติตามแผนการ

ต้องมีการวางแผนที่ชัดเจนและทำตามแผนให้สำเร็จ

7. หลักการบริหารเงิน

ปฏิบัติตามหลักการบริหารเงินในทุกๆ ด้าน

8. การกระจายการลงทุน

ควรกระจายการลงทุน แต่ต้องระมัดระวัง “มากเกินไปก็ไม่ดี”

9. อัตราส่วนผลตอบแทนต่อความเสี่ยง

อัตราส่วนผลตอบแทนต่อความเสี่ยงต้องไม่ต่ำกว่า 3:1 ก่อนที่คุณจะลงทุน

10. แนวทางการเพิ่มตำแหน่งในระดับพีระมิด

a. ทุกตำแหน่งถัดไปต้องมีขนาดเล็กกว่าตำแหน่งก่อนหน้า

b. เพิ่มขนาดตำแหน่งได้เฉพาะเมื่อมีกำไร

c. ห้ามเพิ่มตำแหน่งในขณะที่ขาดทุน

d. ตั้งคำสั่งหยุดขาดทุนที่จุดคุ้มทุน

11. หลีกเลี่ยงการเพิ่มมาร์จิ้น

อย่าเพิ่มเงินทุนในตำแหน่งที่ขาดทุนแล้ว

12. การป้องกันการเรียกเพิ่มมาร์จิ้น

ต้องมีเงินทุนสุทธิไม่น้อยกว่า 75% ของมาร์จิ้นทั้งหมด

13. การปิดตำแหน่งขาดทุน

ควรปิดตำแหน่งที่ขาดทุนก่อนที่จะปิดตำแหน่งที่มีกำไร

14. การตัดสินใจในช่วงตลาดปิด

ควรตัดสินใจในขณะที่ตลาดปิด ยกเว้นการซื้อขายในระยะสั้น

15. การวิจัยจากระยะยาวสู่ระยะสั้น

จะต้องมีการปรับแนวทางการวิจัยให้มุ่งไปที่ระยะสั้นมากขึ้น

16. การวิเคราะห์กราฟรายวัน

ใช้กราฟในแต่ละวันเพื่อหาจุดเข้าซื้อและขาย

17. การเรียนรู้เทคนิคการซื้อขายเตรียมตัว

ศึกษากลยุทธ์การซื้อขายที่มีประสิทธิภาพก่อนที่จะเริ่มซื้อขายในวันเดียวกัน

18. ตระหนักถึงข้อมูลที่ไม่แน่นอน

หลีกเลี่ยงการหลงเชื่อข้อมูลจากสื่อโดยไม่พิจารณา

19. การเป็นส่วนน้อยในตลาด

จงมีความมั่นใจในมุมมองของตัวเอง ถึงแม้ว่าจะตรงข้ามกับความเห็นของคนส่วนมาก

20. การวิเคราะห์ทางเทคนิค

การเรียนรู้ด้านการวิเคราะห์เชิงเทคนิคต้องการการฝึกฝนอยู่อย่างต่อเนื่อง ควรมีทัศนคติที่ลดตัวและเรียนรู้เสมอ

21. ความเรียบง่าย

ควรมุ่งเน้นที่ความเรียบง่าย เพราะสิ่งที่ซับซ้อนไม่จำเป็นต้องดีกว่า