ประเด็นทั่วไป

ตลาดหุ้นและตลาดฟอเร็กซ์ การลงทุนมีความเสี่ยง ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับผู้ลงทุน เป็นที่รู้กันทั่วไป แต่เมื่อกล่าวถึงความเสี่ยง จะเห็นได้ว่ามีความแตกต่างกันอยู่บ้าง เมื่อเปรียบเทียบกันจะชัดเจน:

ความเสี่ยงในตลาดฟอเร็กซ์

1. ตลาดฟอเร็กซ์เป็นการซื้อขายที่มีเลเวอเรจ ซึ่งหมายถึงความเสี่ยงสูงและผลตอบแทนสูง ในขณะที่ตลาดหุ้นเป็นการซื้อขายแบบ 1:1 แต่ในขณะนี้ ตลาดหุ้นและกองทุนต่างก็โดนความเสี่ยงระบบ ซึ่งความเสี่ยงนี้เมื่อคำนวณตามสัดส่วนกับเงินลงทุนแล้ว ไม่ได้น้อยไปกว่าการลงทุนในฟอเร็กซ์เลย

ลักษณะการซื้อขาย

2. ตลาดฟอเร็กซ์เป็นตลาดสองทาง สามารถเปิดขายหรือเปิดซื้อได้ ในขณะที่ตลาดหุ้นเป็นตลาดทางเดียว หากตลาดหุ้นตกลงอย่างรวดเร็ว อาจไม่มีโอกาสในการซื้อขายเป็นเวลาหลายเดือนหรือแม้กระทั่งหลายปี เวลาที่ใช้ในการลงทุนยากจะเปรียบเทียบกับตลาดฟอเร็กซ์

การซื้อขายในวันเดียว

3. ตลาดฟอเร็กซ์มีการซื้อขายแบบ T+0 คือสามารถทำกำไรได้ทันที ในขณะที่ตลาดหุ้นเป็นแบบ T+1 หากซื้อในวันหนึ่ง จะขายได้ในวันถัดไป หากวันถัดไปเปิดตลาดต่ำลง คุณอาจจะไม่สามารถทำอะไรได้เลย

การควบคุมตลาด

4. ตลาดฟอเร็กซ์มีลักษณะเป็นตลาดระดับโลก ไม่มีองค์กรใดสามารถควบคุมตลาดขนาดใหญ่ใบนี้ได้แตกต่างจากตลาดหุ้นที่มีองค์กรหรือเจ้ามือสามารถทำลายหรือดันราคาตามความต้องการได้ ส่งผลให้ผู้ลงทุนเล็กๆ ไม่สามารถแข่งขันได้

ค่าธรรมเนียม

5. ตัวอย่างบริษัทที่ผมลงทุน ตลาดฟอเร็กซ์มีการคิดค่าธรรมเนียมแบบสเปรดคงที่ ค่าธรรมเนียมในการซื้อขายหนึ่งครั้งประมาณ 240 ดอลลาร์สำหรับการลงทุน 2000 ดอลลาร์ โดยมีเลเวอเรจ 1:300 เงินลงทุนที่สามารถใช้งานได้ประมาณ 600,000 ดอลลาร์ ซึ่งถือว่าเป็นค่าธรรมเนียมที่ต่ำ ในขณะที่ค่าธรรมเนียมในการซื้อขายหุ้นประมาณ 3%

เวลาในการซื้อขาย

6. เวลาการเปิดและปิดตลาดหุ้นอยู่ในช่วงเวลาทำงาน ทำให้ยากในการติดตาม ในขณะที่ตลาดฟอเร็กซ์เป็นตลาดระดับโลก เนื่องจากความแตกต่างของเวลา จะมีช่วงเวลาที่ตรงกับเวลาพักผ่อน ทำให้สามารถทำงานและซื้อขายฟอเร็กซ์ไปพร้อมกันได้

ข้อคิดท้าย

ตามคำกล่าวที่ว่า "อย่าวางไข่ทั้งหมดในตะกร้าใบเดียว" ในขณะนี้ที่ตลาดหุ้นมีปัญหา ขอให้เหล่านักลงทุนโชคดีในตลาดฟอเร็กซ์ โดยหวังว่าจะสามารถขุดทองได้ในตลาดนี้