ความสำคัญของการวางแผนการจัดการความเสี่ยง

ก่อนที่คุณจะทำการซื้อขายจริง จำเป็นต้องจัดทำแผนการจัดการความเสี่ยง นี่หมายถึงระดับสูงสุดของการขาดทุนที่คุณยินยอมรับในทุกช่วงเวลา ไม่ว่าตลาดไหน คุณต้องกำหนดความเสี่ยงสูงสุดที่คุณยินยอมรับหรือการขาดทุนสูงสุดที่คุณยินดีแบกรับ

การคำนวณเปอร์เซ็นต์การขาดทุน

คุณต้องคำนวณเปอร์เซ็นต์การขาดทุนสูงสุดที่คุณสามารถยอมรับได้ต่อทุนที่ใช้ในการซื้อขาย นอกจากนี้ต้องชัดเจนว่าในแต่ละช่วงเวลา คุณจะยอมรับความเสี่ยงสูงสุดที่คุณสามารถแบกรับได้และระดับที่คุณยอมรับการขาดทุน กล่าวอีกนัยหนึ่ง หากวันหนึ่ง (หรือสัปดาห์ หรือช่วงเวลาที่กำหนด) เกิดการขาดทุน X ดอลลาร์ คุณจะต้องปิดตำแหน่งทั้งหมด (อย่างน้อยต้องปิดตำแหน่งที่ขาดทุน)

การพักการซื้อขายเมื่อเจอการขาดทุน

เมื่อการขาดทุนเกิดขึ้นแล้ว ควรให้เวลาตัวเองหยุดพักสักระยะหนึ่งให้จิตใจได้สงบแล้วกลับมาทำการซื้อขายใหม่ คุณควรกำหนดขีดจำกัดการขาดทุนสูงสุดที่อนุญาตสำหรับการซื้อขายในแต่ละวัน เมื่อเกิดการขาดทุน ควรหยุดการซื้อขายและออกไปเดินเล่น ฉันเคยประสบกับสถานการณ์นี้เกือบทุกวันติดต่อกันในระยะเวลา 3 สัปดาห์ จนที่สุดฉันต้องให้ตัวเองหยุดพัก 1 สัปดาห์ หลังจากหยุดพัก กลับมาฉันมีสมาธิอีกครั้ง

การปรับระดับความเสี่ยงตามตลาด

คุณต้องรู้ว่าจะต้องปรับระดับความเสี่ยงเมื่อใด ตราบใดที่สภาพตลาดมีการเปลี่ยนแปลง ความเสี่ยงก็จะเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ดังนั้น คุณต้องปรับระดับความเสี่ยงตามสภาพตลาด โอกาสการซื้อขายบางอย่างมีความน่าจะเป็นสูง คุณอาจต้องรับความเสี่ยงที่สูงขึ้นเพื่อสร้างตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้น หากในอีกไม่กี่นาที จะมีการประกาศข่าวสำคัญ ความผันผวนของตลาดอาจเพิ่มขึ้น ในกรณีนี้ เนื่องจากความเสี่ยงเพิ่มขึ้น คุณควรพิจารณาที่จะออกจากตลาดหรือปรับลดความเสี่ยงลง

การจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม

เมื่อความเสี่ยงเพิ่มขึ้น หากคุณไม่ลดขนาดตำแหน่งโดยเร็ว ความเสี่ยงรวมที่เปิดเผยจะเกินระดับที่คุณคาดหวังไว้