บทนำ

ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้นหรือตลาดฟอเร็กซ์ สำหรับนักลงทุนรายย่อยจำนวนมาก การหยุดขาดทุนเป็นการกระทำที่มักถูกมองข้าม นักลงทุนในตลาดการเงินมักจะไม่รู้ว่าตนอยู่ในสถานการณ์เช่นไร โดยอิงจากข้อมูลด้านเดียวและข่าวสารภายในที่เรียกว่า เมื่อเกิดความเสียหายก็จะถูกล็อกอยู่ในความกลัดกลุ้ม และมองว่าตลาดนั้นไม่มีความเมตตา นอกจากนี้ยังไม่เข้าใจว่าหลังจากที่เข้าลงทุนไปแล้ว สิ่งที่สามารถควบคุมได้เพียงอย่างเดียวคือ "ความเสี่ยง" ที่น่ากลัวที่สุด การควบคุมความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือการตั้งหยุดขาดทุน

หลักการหยุดขาดทุน

นักเทรดมืออาชีพมีหลักเหล็กข้อหนึ่ง: ไม่มีการหยุดขาดทุน ไม่ทำการซื้อขาย การหยุดขาดทุนหมายถึงเมื่อการลงทุนเกิดการขาดทุนเกินจำนวนที่กำหนดไว้ จะต้องทำการขายออกเพื่อหลีกเลี่ยงการขาดทุนที่มากขึ้น จุดประสงค์อยู่ที่การจำกัดความเสียหายไว้ในขอบเขตที่ค่อนข้างเล็กเมื่อเกิดความผิดพลาดในการลงทุน การการหยุดขาดทุนที่ดีเท่ากับการควบคุมความเสี่ยงในตลาดที่ไม่สามารถควบคุมได้

วิธีการหยุดขาดทุน

การหยุดขาดทุนแบ่งออกเป็นสองประเภท: การหยุดขาดทุนแบบตายตัวและการหยุดขาดทุนแบบติดตาม การหยุดขาดทุนแบบตายตัวสามารถตั้งขึ้นตามสามปัจจัยต่อไปนี้: 1. จำนวนเงินที่ตายตัว 2. เปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงินทั้งหมด 3. เวลา [ใช้กันบ่อยในธุรกิจการเทรดแบบระยะสั้น] ส่วนการหยุดขาดทุนแบบติดตาม ได้แก่ 1. การหยุดขาดทุนแบบเปอร์เซ็นต์ 2. การหยุดขาดทุนแบบเส้นเดี่ยว 3. การหยุดขาดทุนแบบสามเส้น

การควบคุมความเสี่ยง

แล้วคุณใช้เกณฑ์อะไรในการควบคุมความเสี่ยง? 1. อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน 2. ขนาดการขาดทุนสูงสุดต่อการเทรด 3. ขนาดการขาดทุนสูงสุดต่อวัน 4. ขนาดการขาดทุนสูงสุดต่อเดือน ในการทำฟอเร็กซ์ จิตใจของมนุษย์เป็นกระบวนการท้าทายที่โหดร้าย นักเทรดที่มีวินัยอย่างเคร่งครัด ไม่โลภ ไม่กลัวความเสี่ยง และไม่หลงใหลในโชค มักจะประสบความสำเร็จในระยะยาว อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทนของพวกเขาสูงกว่าคนทั่วไป อย่างไรก็ตาม ต้องเริ่มต้นจากการปฏิบัติตามแผนการหยุดขาดทุนอย่างเคร่งครัด มิฉะนั้นคุณจะไม่สามารถได้อะไรนอกจากความเจ็บปวดในการออกจากตลาด