ขั้นตอนที่หนึ่ง: ยังไม่ตระหนักว่าตนเองเป็นนักเทรดที่ไร้ความสามารถ

ในขั้นตอนนี้ คุณคิดว่าการทำฟอเร็กซ์เป็นวิธีการทำเงินที่ดี เนื่องจากคุณได้ยินว่ามีผู้คนมากมายที่ทำเงินจากตลาดฟอเร็กซ์ หลายคนกลายเป็นเศรษฐีเหมือนที่คุณเคยคิดว่าการขับรถง่ายเมื่อคุณยังไม่เคยเรียนรู้การขับรถ ความคิดว่าการเทรดก็ง่ายเช่นกัน ราคาอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลง อะไรจะยากขนาดนั้น? น่าเสียดายที่เมื่อคุณนั่งอยู่หลังพวงมาลัยครั้งแรกและรู้สึกงง คุณเริ่มทำการเทรดมากมายและเสี่ยงมาก หลังจากคุณเข้าทำการเทรด ราคากลับไปในทิศทางที่ไม่เป็นประโยชน์กับคุณ ดังนั้นคุณจึงพยายามกลับทำในทิศทางตรงกันข้าม แต่สุดท้ายราคา ก็กลับไปอีกทิศทาง คุณจึง… เพื่อหลีกเลี่ยงการขาดทุน คุณเพิ่มเงินลงทุนในตำแหน่งที่เสียเปรียบ โดยหวังว่าจะบรรเทาความเสี่ยง — บางครั้งคุณสามารถหลุดพ้นจากการขาดทุนได้ แต่บ่อยครั้งคุณกลับพบว่าตนเองอยู่ในสภาพที่เลวร้าย ในขั้นตอนนี้คุณยังไม่ตระหนักว่าตนเองเป็นนักเทรดที่ไร้ความสามารถ ขั้นตอนนี้มักจะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ก่อนที่คุณจะเข้าสู่ขั้นตอนที่สอง

ขั้นตอนที่สอง: ตระหนักว่าตนเองเป็นนักเทรดที่ไร้ความสามารถ

ในขั้นตอนนี้ คุณเริ่มตระหนักว่าในการประสบความสำเร็จ คุณจำเป็นต้องพยายามมากขึ้น คุณเข้าใจว่าตนเองยังไม่พร้อมที่จะเป็นผู้เทรดที่ทำกำไรอย่างยั่งยืน คุณเริ่มลองซื้อระบบต่าง ๆ อ่านหนังสือมากมาย และท่องเว็บไซต์ต่าง ๆ (ตั้งแต่รัสเซียถึงยูเครน) เพื่อหาศาสตร์แห่งความสำเร็จ ในช่วงเวลานี้ คุณเป็นผู้ที่คลั่งไคล้ระบบ คุณพยายามวิธีการต่าง ๆ วันแล้ววันเล่า แต่ไม่สามารถยึดติดกับวิธีเดียวเพื่อตรวจสอบว่ามันใช้ได้ผลจริงหรือไม่ ทุกครั้งที่คุณเจอตัวชี้วัดใหม่ คุณคิดว่ามันแตกต่างจากตัวชี้วัดที่เคยใช้มาก่อน คุณใช้ MetaTrader ทดลองระบบการเทรดอัตโนมัติต่าง ๆ เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่, ฟีโบแนชชี, แนวรับและแนวต้าน, Pivots, Fractals, Divergence, DMI, ADX, และอีกหลายร้อยตัวชี้วัดอื่น ๆ เพื่อหวังว่าจะค้นหาระบบที่วิเศษได้ในเร็ววัน คุณพยายามดักจับจุดสูงและต่ำ สุ่มหาจุดเปลี่ยนแนวโน้มที่แม่นยำด้วยตัวชี้วัดของคุณ สุดท้ายคุณยังคงยึดติดกับการเทรดที่ขาดทุนและพยายามต่อรอง เพราะมั่นใจว่าตนเองถูกต้อง คุณเข้าไปยังห้องแชทหรือฟอรัมที่อื่น ๆ เห็นนักเทรดคนอื่น ๆ หาเงินจากตลาด คุณตั้งคำถามกับตัวเองหลายครั้งว่า ทำไมคนที่ฉลาดน้อยกว่าถึงสามารถทำเงินได้ ในขณะที่คุณไม่สามารถทำได้ (เมื่อมานึกดู คุณอาจรู้สึกว่าตนเองโง่) ดังนั้น คุณเชื่อว่าใครที่บอกว่าทำเงินได้ กำลังโกหกอยู่ พวกเขาคงไม่สามารถทำได้ขนาดนั้น เพราะคุณได้ศึกษาเรื่องตลาดนี้มาก แต่กลับไม่สามารถทำได้จริงในทางปฏิบัติ คุณรู้สึกเหมือนวัยรุ่นที่หัวดื้อ ไม่สนใจที่จะฟังคำแนะนำของเซียนเทรด คุณเชื่อว่าตนเองเก่งที่สุด ใช้เลเวอเรจสูงและเทรดเกินกำลัง แม้แต่เมื่อคนอื่นบอกว่าคุณบ้า คุณกลับไม่เห็นด้วย เพราะคุณรู้สึกว่าตนเองดีกว่าผู้อื่น คุณเริ่มคิดจะตามคำสั่งของผู้อื่น แต่ไม่สำเร็จ จากนั้นคุณก็หันไปขอรับบริการที่ต้องเสียเงิน แต่ผลลัพธ์ก็ไม่ได้เหมาะกับคุณ ขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาหลายปี ผู้เขียนใช้เวลา 18 เดือน ในที่สุดคุณเริ่มออกจากขั้นตอนนี้ หลังจากที่คุณใช้เวลาและเงินเกินกว่าที่เคยคิดไว้และประสบกับการขาดทุน 2-3 ครั้ง แต่ผู้ที่ไม่ยอมแพ้มักจะประสบกับการขาดทุน 3-4 ครั้ง

ขั้นตอนที่สาม: ผมพบแล้ว

ในช่วงปลายของขั้นตอนที่สอง คุณเริ่มตระหนักว่าไม่ใช่ระบบเทรดเองที่สร้างความแตกต่างให้กับนักเทรด คุณเข้าใจว่า หากวิธีคิดและการบริหารจัดการเงินถูกต้อง ถึงแม้จะใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่ายก็สามารถทำเงินได้ คุณเริ่มทำการอ่านหนังสือเกี่ยวกับแนวคิดในการเทรดและจิตวิทยาการเทรด และพยายามระบุลักษณะนิสัยตามที่ระบุในหนังสือ เมื่อถึงเวลานั้น คุณเริ่มเข้าสู่ช่วง "ผมพบแล้ว" ช่วงเวลานี้เปิดมิติใหม่ในสมองของคุณ คุณตระหนักได้ทันทีว่าคุณและคนอื่นไม่สามารถคาดการณ์ราคาตลาดได้อย่างแม่นยำ แม้กระทั่งราคาใน 10 วินาทีต่อมา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงใน 20 นาทีหลังจากนั้น คุณเริ่มมุ่งเน้นไปที่ระบบเดียว และปรับเปลี่ยนวิธีการเทรดของคุณ คุณเริ่มสนุกกับมันและสามารถควบคุมความเสี่ยงของตนเองได้ คุณเข้าไปทำการเทรดในทุก ๆ โอกาสที่กลยุทธ์ของคุณแสดงว่าน่าจะมีโอกาสชนะสูง เมื่อการเทรดขัดแย้งกับผลประโยชน์ของคุณ คุณไม่รู้สึกโกรธอีกต่อไป เพราะคุณรู้ว่าคุณไม่สามารถคาดการณ์ราคาได้ นั่นไม่ใช่ความผิดของคุณ เมื่อคุณพบว่าการเทรดไม่เป็นไปตามแผน คุณสามารถออกจากการเทรดได้ คุณรู้ว่าการเทรดครั้งถัดไปจะมีโอกาสสำเร็จมากขึ้น เพราะคุณเชื่อในระบบการเทรดที่ง่ายของคุณ คุณเริ่มเข้าใจว่าการทำการเทรดก็เหมือนการเล่นเกมอย่างหนึ่งที่จะต้องมีการใช้กลยุทธ์และวินัยที่สม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถจัดการกับทุกการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณได้เรียนรู้การบริหารจัดการเงินที่เหมาะสม ใช้เลเวอเรจในอัตราที่เหมาะสม และสามารถควบคุมความเสี่ยงในบัญชีของตนเองได้ ในเวลานี้คุณนึกถึงคำแนะนำที่คนอื่นให้คุณเมื่อปีที่แล้วและอดที่จะยิ้มไม่ได้ ตอนนั้นคุณอาจไม่สามารถยอมรับได้ แต่ตอนนี้คุณทำได้แล้ว ช่วงเวลาที่ "ผมพบแล้ว" เป็นสัญญาณที่ว่าคุณยอมรับความจริงว่าคุณไม่สามารถคาดการณ์ตลาดได้

ขั้นตอนที่สี่: ตระหนักว่าตนเองเป็นนักเทรดที่มีความสามารถ

คุณยอมรับการจำหน่ายสัญญาณจากระบบเทรดทุกการเทรด คุณสามารถจัดการกับการขาดทุนได้เหมือนกับที่คุณจัดการกับการทำกำไร คุณสามารถตัดการขาดทุนและปล่อยให้กำไรวิ่งไป เพราะคุณรู้ว่าระบบของคุณทำกำไรได้มากกว่าขาดทุน ตอนนี้คุณอยู่ในขั้นตอนที่ไม่ทำให้ได้เงิน แต่ก็ไม่ขาดทุน คุณเริ่มสามารถให้การเทรดที่ดี และค่อย ๆ ได้รับความเคารพจากผู้อื่น คุณยังคงพยายามพัฒนาการเทรดของคุณอย่างต่อเนื่อง และโชคดีที่กำไรเริ่มมากกว่าขาดทุน ในวันหนึ่งคุณอาจทำกำไรได้ 20 จุด แต่กลับเสีย 35 จุด แล้วคุณกลับไม่รู้สึกอะไร เพราะคุณมั่นใจว่ามันจะกลับมาในที่สุด สุดท้ายในที่สุดคุณเริ่มทำกำไรเป็นประจำทุกสัปดาห์

ขั้นตอนที่ห้า: นักเทรดผู้มีความสามารถอย่างไม่รู้ตัว

ทุกอย่างพร้อมแล้ว — เหมือนกับการขับรถโดยไม่รู้ตัวในทุก ๆ วัน การเทรดของคุณตอนนี้ก็อยู่ในสถานะเช่นเดียวกัน คุณอยู่ในโหมดขับอัตโนมัติ ทำกำไรได้ 100 จุดเป็นเรื่องปกติสำหรับคุณ นี่คือดินแดนในอุดมคติของการเทรดที่คุณสามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้อย่างเต็มที่ ทำให้บัญชีของคุณเติบโตอย่างรวดเร็ว คุณกลายเป็นดาวเด่นในห้องแชทและฟอรัม ทุกคนฟังคำแนะนำของคุณ จากคำถามของพวกเขา คุณเริ่มเห็นเงาของตัวเองเมื่อสองปีก่อน แม้คุณจะให้คำแนะนำ แต่คุณรู้ว่ามันก็ไร้ประโยชน์สำหรับพวกเขา คนที่ช้านั้นหรือเร็วจะต้องเดินไปตามเส้นทางที่คุณเคยเดินมาก่อน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหลายคนจะไม่มีวันก้าวข้ามระดับที่สอง การเทรดกลับไม่ให้ความรู้สึกตื่นเต้นหรือบางทีก็รู้สึกเบื่อหน่าย เหมือนกับการทำงานในชีวิตประจำวัน ตอนนี้คุณสามารถยกหัวขึ้นและพูดด้วยเสียงดังว่า: "ผมเป็นนักเทรดฟอเร็กซ์"