ข้อมูลเกี่ยวกับการเก็งกำไร

การเก็งกำไร (speculative/speculation) คือการยอมรับหรือใช้ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งตรงกันข้ามกับการป้องกันความเสี่ยง การเก็งกำไรไม่ได้เป็นการพยายามลดความเสียหายให้มากที่สุด แต่เป็นการแสวงหากำไรให้ได้มากที่สุด การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นตลอดเวลาเปิดโอกาสให้ผู้เก็งกำไรสามารถแสวงหากำไรได้ โดยมีเงื่อนไขต่าง ๆ ที่เอื้ออำนวย ผู้เก็งกำไรสามารถใช้ประโยชน์จากการเก็งกำไรสกุลเงินที่อ่อนแอหรือสกุลเงินที่แข็งแกร่ง

วิธีการเก็งกำไร

การเก็งกำไรสกุลเงินอ่อน

โดยพื้นฐานแล้วการเก็งกำไรสกุลเงินอ่อนคือการ “ขายในราคาสูง ก่อนที่จะซื้อในราคาต่ำ” ผู้เก็งกำไรมีความสามารถในการสังเกตทิศทางของตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราและคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนได้อย่างแม่นยำ หากผู้เก็งกำหนดว่าสกุลเงินใดสกุลเงินหนึ่งมีมูลค่าสูงเกินไปและแน่นอนว่าจะลดมูลค่าในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เขาจะต้องขายสกุลเงินนั้นในราคาที่สูงก่อนที่มันจะลดมูลค่าและรอซื้อมันกลับในราคาที่ต่ำกว่า ผลต่างระหว่างราคาขายและราคาซื้อเมื่อมีการเก็งกำไรจะทำให้ผู้เก็งกำไรได้รับกำไรมากขึ้น

ตัวอย่างการเก็งกำไร

สมมุติว่าผู้เก็งกำไรมีทุน＝￡1000 อัตราแลกเปลี่ยนก่อนการลดค่า ￡1＝＄2.8 และอัตราแลกเปลี่ยนหลังจาก 3 เดือนลดค่าเป็น ￡1＝＄2.4 ความเสี่ยงจากการถือเงินสเตอร์ลิงในช่วงเดือนก่อนหน้านั้นที่ต้องการขายเงินสเตอร์ลิงในราคา ￡1＝＄2.765 และอัตราแลกเปลี่ยนเงินสเตอร์ลิงที่เกิดขึ้นในอนาคต ราคาจากการซื้อแล้วขายใหม่ซึ่งมาอยู่ที่ ￡1152 โดยวิธีการขายในราคาสูงและซื้อต่ำ

การเก็งกำไรสกุลเงินแข็ง

การเก็งกำไรสกุลเงินแข็งมีลักษณะคือการซื้อในราคาต่ำก่อนที่จะขายในราคาสูง โดยการให้ความสนใจกับสกุลเงินที่มีมูลค่าต่ำกว่าแนวโน้มจริง โดยผู้เก็งกำไร ซื้อสกุลเงินของเยอรมันในระดับต่ำกว่าเมื่ออัตราแลกเปลี่ยน DMI=＄0.250 และภายในเวลา 3 เดือนหลังจากนี้จะเห็นการปรับค่าขึ้นไปที่ DMI=＄0.270

ผลกระทบต่อธนาคารกลาง

การเก็งกำไรที่ใช้สกุลเงินอ่อนและสกุลเงินแข็งมีผลต่อธนาคารกลางแตกต่างกัน โดยการเก็งกำไรสกุลเงินอ่อนทำให้ธนาคารกลางของประเทศที่ใช้สกุลเงินอ่อนลดการสำรองระหว่างประเทศ ขณะที่การเก็งกำไรสกุลเงินแข็งจะทำให้ธนาคารกลางมีการเพิ่มทุนสำรองระหว่างประเทศขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อราคาของเงินในท้องตลาด