ประสบการณ์การซื้อขาย

จากครั้งแรกที่ทำการซื้อขายจนถึงปัจจุบันที่ฉันมีประสบการณ์หลายสิบปี นักเทรดหลายคนยังคงถามว่าเราจะจับความแตกต่างระหว่างการคาดการณ์และการซื้อขายเมื่อมีการยืนยันอย่างเพียงพอได้อย่างไรและจะรักษาสมดุลนี้ได้อย่างไร? คำแนะนำของฉันคือ: เผชิญหน้ากับปัญหา ตั้งแต่ที่ฉันได้พบกับนักเทรดที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้วางแผนและคาดการณ์ที่มีความชำนาญมาก พวกเขาต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น โครงสร้าง, ระดับสนับสนุนและความต้านทาน, ดัชนี, รูปแบบ และสถานการณ์ที่เป็นไปได้อื่นๆ เป็นต้น โดยการวางแผนที่ครบถ้วนจะช่วยให้การซื้อขายของพวกเขามีแนวโน้มให้ผลลัพธ์ในเชิงบวกมากขึ้น นี่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะถูกต้องเสมอไป ไม่มีใครทำได้เช่นนั้น

การจัดการกำไร

ในความเป็นจริงฉันเคยได้รับผลกำไรที่น่าทึ่งมากมาย แต่ในช่วงแรกมันกลับไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง การเข้าซื้อขายของฉันก็ไม่ใช่ช่วงเวลาอันเพอร์เฟค แต่เมื่อเวลาผ่านไป ตลาดเริ่มเคลื่อนไปตามการวิเคราะห์เริ่มต้นและไปในทิศทางที่ฉันคาดหวัง จนถึงตอนนั้น ปัญหาของเราก็เหลือเพียงอย่างเดียว นั่นคือจะจัดการกับกำไรได้ดีอย่างไร? คำถามนี้น่าสนใจสำหรับนักเทรดมากกว่าถามว่า 'ฉันจะพบการซื้อขายที่ทำกำไรได้อย่างไร' ตลาดมักมีจังหวะการเคลื่อนไหว, การผันผวน และแนวโน้มเฉพาะตัวของมันเอง

วิธีจัดการกำไร

เราในฐานะนักเทรดจะสังเกตว่ามีเครื่องมือบางอย่างที่มักมีแนวโน้มและลักษณะเฉพาะอยู่เสมอ บางตลาดเคลื่อนที่อย่างช้าๆ เหมือนการเต้นวอลซ์ ขณะที่บางตลาดก็เหมือนเต้นบีบอย ทำให้ยากที่จะจับจังหวะได้ หรืออาจมีบางตลาดที่เคลื่อนไหวอย่างรุนแรง ถ้าสไตล์ใดตรงกับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณ คุณก็จะสามารถทำกำไรได้ สถานการณ์ที่ดีที่สุดคือคุณมีกลยุทธ์การซื้อขายหลายรูปแบบที่ช่วยให้คุณปรับตัวกับดีเจที่มีสไตล์แตกต่างกัน

การคาดการณ์และยืนยัน

ฉันชอบสำรวจพฤติกรรมของตลาดที่สามารถจับคู่กับสไตล์และกลยุทธ์การซื้อขายของตัวเอง มันใช้เวลาและความพยายามมากในการระบุคุณสมบัติของตลาด ไม่ใช่ทุกตลาดหรือเครื่องมือทางการเงินที่จะสามารถค้นพบได้ แต่การทำซ้ำๆ ในรูปแบบการซื้อขายก็เพียงพอแล้ว ซึ่งจะช่วยให้คุณพบวิธีการที่เหมาะสมกับกลยุทธ์ของคุณเอง โดยวิธีนี้ฉันได้ค้นพบวิธีการซื้อขายที่เหมาะสมกับตัวเอง ซึ่งนักเทรดส่วนใหญ่ก็ควรจะค้นพบวิธีการที่เหมาะสมแทนที่จะรอคนอื่นบอกคุณ

รู้ว่าเมื่อไหร่ควรจะคาดการณ์หรือยืนยัน

แล้วนักเทรดจะรู้ได้อย่างไรว่าควรจะคาดการณ์เมื่อใดและควรรอการยืนยันก่อนเข้าซื้อขายเมื่อไหร่? ในความเห็นของฉันทั้งหมดขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง ในขณะที่คุณกำลังวางแผน การคาดการณ์เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ในขณะที่คุณกำลังดำเนินการซื้อขาย สัญญาณการยืนยันก็มีความสำคัญมากเช่นกัน การซื้อขายก็คือการซื้อขาย เป็นชุดของตำแหน่ง, ระยะทาง, และความซับซ้อนที่แตกต่างกันออกไป

การประเมินความสำเร็จของคุณ

บางครั้งการคาดการณ์บางอย่างอาจล้มเหลว หรือเมื่อฉันไม่สามารถทำการค้าดังกล่าวได้ ฉันจะรอให้มีการยืนยันก่อนที่จะเริ่มการซื้อขาย อย่างไรก็ตาม ฉันก็รู้สึกเบื่อหน่าย เนื่องจากการซื้อขายมีน้อย ฉันรู้สึกว่าเพื่อยืนยันว่าการซื้อขายจะสำเร็จ ฉันกลับสูญเสียโอกาสดีๆ มากมาย มีบางครั้งที่ฉันคิดว่าการไม่ทำการค้าตามการคาดการณ์เป็นเรื่องดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฉันต้องทำการตัดสินใจที่ไม่ดีหลายครั้งซึ่งก่อให้เกิดความเครียดและความวิตกกังวล

จัดทำแผนการซื้อขายและปฏิบัติตามแผนการนั้น

เมื่อใดก็ตามที่นักเทรดเตรียมพร้อมที่จะซื้อขาย พวกเขาอาจจะมีความมั่นใจหรือเต็มไปด้วยความวิตกกังวล หากได้เริ่มทำการซื้อขายแล้ว คุณก็จะเริ่มเห็นแนวโน้มในตลาด และคุณยังมีประวัติการเคลื่อนไหวของตลาด ซึ่งทำให้การสังเกตง่ายขึ้น นี่ไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป แต่ทิศทางนี้เหมือนกับสถานะปกติ หากคุณเข้าใจแนวโน้มนี้ คุณจะสามารถดำเนินการซื้อขายอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และคุณจะรู้สึกมั่นใจมากขึ้น เพราะคุณรู้ว่าการที่ตลาดจะเกิดสถานะใดสถานะหนึ่งนั้นเป็นเรื่องปกติ

สรุป

หลายคนที่เป็นนักเทรดรู้สึกว่าตลาดเป็นอันตรายและอาจถึงชีวิต แม้ว่าตลาดจะเป็นสาเหตุให้เกิดความโกรธและแรงกดดันต่อผู้ที่ประสบปัญหาให้สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างได้ แต่ตราบใดที่คุณเคารพในกฎที่ทรงพลังของตลาด คุณก็ยังสามารถอยู่รอดปลอดภัยและค้นหาช่องทางทำกำไรได้ แม้ในเวลาที่ตลาดแสดงพลัง เราก็ยังมีโอกาสที่ไม่น่าเชื่ออย่างมาก ดังนั้นฉันแนะนำให้ทุกคนควรค้นหาความแตกต่างและความสมดุลระหว่างการคาดการณ์และการยืนยัน และใช้กลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสมที่สุดกับตนเองเพื่อการต่อสู้