การเตรียมการซื้อที่เหมาะสม

เมื่อคุณเลือกหุ้นและมีจุดซื้อแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการเตรียมการสั่งซื้อ แต่จะซื้ออย่างไร? ควรลงทุนทั้งหมดหรือแค่บางส่วน? นี่เป็นเรื่องที่สำคัญมาก.

ข้อดีและข้อเสียของการซื้อจำนวนมาก

หากคุณลงทุนมากๆ เมื่อหุ้นขึ้นราคาจะมีความสนุกสนาน แต่ถ้าหากราคาลดลง ย่อมทำให้ขาดทุนอย่างมาก ดังนั้น นักลงทุนหลายคนมักจะรู้สึกเสียใจเนื่องจากซื้อมากและราคาตก หรือรู้สึกผิดเพราะซื้อเพียงน้อยนิดและไม่สามารถทำกำไรได้เพียงพอ.

การควบคุมปริมาณการลงทุนอย่างเหมาะสม

ปริมาณการลงทุนที่เหมาะสมนั้นมีหลักการหลายข้อให้พิจารณา:

การตั้งค่าตามขนาดเงินทุน

โดยทั่วไปไม่ว่าเงินทุนจะมากหรือน้อย ทุกคนต้องมีการควบคุมปริมาณการลงทุน นักลงทุนที่มีเงินทุนมากควรให้ความสำคัญกับการควบคุมปริมาณการลงทุนอย่างมาก ในสภาวะทั่วไป นักลงทุนที่มีเงินทุนมากควรหลีกเลี่ยงการลงทุนในปริมาณมากเกินไป และไม่ควรลงทุนเต็มที่ตลอดเวลา นักลงทุนที่มีเงินทุนน้อยสามารถลงทุนในขนาดที่พอเหมาะตามความเสี่ยงที่สามารถรับได้.

การตั้งค่าตามจุดราคา

เมื่อกำหนดขนาดการลงทุน จุดการตั้งค่าราคาของตลาดมีความสำคัญเช่นกัน ปกติแล้วเมื่อดัชนีตลาดมีการเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ควรลดการลงทุน นอกจากนี้ เมื่อราคาตลาดลดลง ควรเพิ่มการลงทุน การพิจารณานี้มีแนวคิดว่า "ถ้าราคาไม่ขึ้นก็ไม่ขาย, ถ้าขึ้นนิดหน่อยก็ขายนิดหน่อย, ถ้าขึ้นมากก็ควรขายมาก; ถ้าราคาไม่ลงก็ไม่ซื้อ, ถ้าลงเล็กน้อยก็ซื้อเล็กน้อย, ถ้าลงมากก็ซื้อมาก".

การตั้งค่าตามราคาหุ้น

นอกจากสองข้อข้างต้นแล้ว ยังต้องคำนึงถึงราคาของหุ้นเป้าหมายในการกำหนดขนาดการลงทุน หากคุณมั่นใจในหุ้น ควรเลือกการลงทุนในขนาดเล็กเมื่อราคาสูง และลงทุนในขนาดใหญ่เมื่อราคาต่ำ นอกจากนี้ควรขายเมื่อราคาขึ้นและซื้อเมื่อราคาลดลง แทนที่จะตามกระแสหรือซื้อขายตามคำแนะนำของผู้อื่น

ควบคุมปริมาณการลงทุนตามสไตล์ของคุณ

ข้อที่สำคัญที่สุดคือการควบคุมขนาดการลงทุนตามลักษณะการดำเนินงานของแต่ละบุคคล สรุปได้ว่าหากคุณควบคุมขนาดการลงทุนได้ดี จะช่วยให้คุณรู้สึกสบายใจในการซื้อขายและมีความสุขมากขึ้น ทำไมในช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนจึงมีเพียงบางคนที่สามารถไม่ตื่นเต้นเมื่อตลาดขึ้นหรือเศร้าเมื่อตลาดลง? การมีความชำนาญในการควบคุมขนาดการลงทุนคือหนึ่งในความลับนี้.