บทนำ

ในบทเรียนก่อนหน้านี้เราได้พูดถึงโครงสร้างทั่วไปของตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา ในบทเรียนนี้เราจะมาสำรวจว่าใครคือผู้ซื้อขายเงินตราต่างประเทศในตลาดนี้ ในการลงทุนในตลาดเงินตรา การทำความเข้าใจลักษณะของตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราสปอตและผู้เล่นหลักเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ในช่วงทศวรรษ 1990 ก่อนหน้านี้เฉพาะ "ผู้เล่นใหญ่" เท่านั้นที่สามารถทำการค้าการแลกเปลี่ยนเงินตราได้ ในขณะนั้นมีข้อกำหนดว่าต้องมีเงินตั้งแต่ 100,000 ถึง 50 ล้านดอลลาร์ในการลงทุนในเงินตรา การแลกเปลี่ยนเงินตราในตอนแรกมีไว้สำหรับธนาคารและสถาบันการลงทุนขนาดใหญ่ ไม่ใช่สำหรับเรา "ผู้คนตัวเล็ก" อย่างไรก็ตามหลังจากปี 1990 โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยการพัฒนาของอินเทอร์เน็ตและโบรกเกอร์แลกเปลี่ยนเงินตราออนไลน์ เราจึงมีโอกาสที่จะเข้าร่วมการค้าการแลกเปลี่ยนเงินตรา นอกจากนี้ยังมีผู้เล่นหลัก 4 ประเภทในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา

ประเภทที่หนึ่ง: ธนาคารขนาดใหญ่

เนื่องจากตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราสปอตเป็นตลาดการค้าที่กระจาย จึงเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่มีอำนาจมากที่สุดในโลกที่กำหนดอัตราแลกเปลี่ยน โดยอิงจากอุปสงค์และอุปทานของสกุลเงิน ธนาคารขนาดใหญ่มักจะกำหนดส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยน ธนาคารเหล่านี้ซึ่งถูกเรียกรวมกันว่าตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างธนาคารมีปริมาณการซื้อขายที่น่าประทับใจมหาศาล ทุกวัน พวกเขาทำการค้าเงินตราสำหรับลูกค้าในขณะเดียวกันก็เข้าร่วมการซื้อขายด้วยชื่อที่มีชื่อเสียงในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา ได้แก่ Barclays, Swiss Bank, Deutsche Bank, Citibank, Goldman Sachs, Morgan, HSBC, Standard Chartered และ Bank of China เป็นต้น ดังนั้น คุณสามารถกล่าวได้ว่าตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างธนาคารคือ ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราสปอต

ประเภทที่สอง: บริษัทการค้า

วัตถุประสงค์ของบริษัทที่เข้าร่วมในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราคือเพื่อดำเนินธุรกิจ ตัวอย่างเช่น เมื่อ Apple ซื้อชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จากญี่ปุ่น บริษัทจำเป็นต้องแลกเปลี่ยนดอลลาร์เป็นเยนก่อน ปริมาณการซื้อขายเงินตราของบริษัทเหล่านี้เมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณการซื้อขายระหว่างธนาคารมีขนาดเล็กมาก ดังนั้นบริษัทการค้าจึงมักจะทำการค้ากับธนาคารการค้า มีสิ่งหนึ่งที่ต้องระวังคือการควบรวมและการเข้าซื้อกิจการระหว่างบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนได้ เนื่องจากการแลกเปลี่ยนสกุลเงินจำนวนมากที่จะเกิดขึ้นพร้อมกันระหว่างการควบรวมกิจการอาจก่อให้เกิดความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน

ประเภทที่สาม: รัฐบาล (ธนาคารกลาง)

รัฐบาลหรือธนาคารกลาง เช่น ธนาคารประชาชนของจีน (PBOC), ธนาคารกลางยุโรป (CEB), ธนาคารอังกฤษ (BOE), เฟด (the Fed) และธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BOJ) มักเข้าร่วมการแลกเปลี่ยนเงินตรา ธนาคารกลางเข้าร่วมการแลกเปลี่ยนเงินตราหลัก ๆ เพื่อการชำระเงินในการค้าระหว่างประเทศ การปรับยอดเงินสำรอง และการรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยน ในขณะเดียวกันเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อหรือวัตถุประสงค์อื่น ๆ อาจมีการปรับอัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินท้องถิ่นหรือดำเนินการซื้อขายอย่างเปิดเผยขนาดใหญ่ ซึ่งอาจมีผลกระทบอย่างมากต่อ ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา

ประเภทที่สี่: นักเก็งกำไรเงินตรา

ปริมาณการซื้อขายของนักเก็งกำไรเงินตราคิดเป็นเกือบ 90% ของปริมาณการค้าทั้งหมด นักเก็งกำไรเงินตราประกอบด้วยสถาบันและบุคคลที่หลากหลาย พวกเขาร่วมซื้อขายในตลาดเงินตราเพื่อเป้าหมายเดียว นั่นคือ การทำกำไร (สร้างรายได้) ทุกคนที่มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเงินตรา เทคนิคการลงทุนบางประการ และคุณลักษณะทางจิตใจที่จำเป็นสามารถเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของนักลงทุนในตลาดเงินตราได้

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียนรู้การแลกเปลี่ยนเงินตรา

สำหรับความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเงินตราและวิธีการเทรดเงินตรา โปรดเยี่ยมชม: ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเงินตราในหมวดหมู่การเรียนรู้