การใช้รูปแบบ “หัวและไหล่” และ “หัวและไหล่กลับด้าน” ในการวิเคราะห์ตลาด

รูปแบบ "หัวและไหล่" (Head and Shoulders) และ "หัวและไหล่กลับด้าน" (Inverse Head and Shoulders) เป็นรูปแบบทางเทคนิคที่สำคัญในการวิเคราะห์แนวโน้มการกลับตัวของราคา ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มนักเทรดที่ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค รูปแบบเหล่านี้ช่วยให้นักเทรดสามารถคาดการณ์การกลับตัวของแนวโน้มราคาและวางแผนการเทรดได้อย่างแม่นยำ

รูปแบบ “หัวและไหล่” คืออะไร?

รูปแบบหัวและไหล่เกิดขึ้นในช่วงแนวโน้มขาขึ้นที่กำลังจะกลับตัวลง โดยประกอบด้วย 3 ส่วนสำคัญ:

• ไหล่ซ้าย (Left Shoulder): การขึ้นของราคาเป็นครั้งแรกตามด้วยการปรับตัวลง
• หัว (Head): การขึ้นของราคาไปที่จุดสูงสุดใหม่ ตามด้วยการปรับตัวลงอีกครั้ง
• ไหล่ขวา (Right Shoulder): การขึ้นของราคาครั้งสุดท้ายแต่ไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้

เมื่อราคาทะลุเส้นคอ (Neckline) ลงมา จะเป็นสัญญาณยืนยันว่าราคามีแนวโน้มจะกลับตัวลง

รูปแบบ “หัวและไหล่กลับด้าน” คืออะไร?

รูปแบบหัวและไหล่กลับด้านเป็นการกลับด้านของรูปแบบหัวและไหล่ปกติ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงแนวโน้มขาลงที่กำลังจะกลับตัวขึ้น:

• ไหล่ซ้าย (Left Shoulder): การลงของราคาครั้งแรกตามด้วยการปรับตัวขึ้น
• หัว (Head): การลงของราคาไปที่จุดต่ำสุดใหม่ตามด้วยการปรับตัวขึ้นอีกครั้ง
• ไหล่ขวา (Right Shoulder): การลงของราคาครั้งสุดท้ายแต่ไม่สามารถทำจุดต่ำสุดใหม่ได้

เมื่อราคาทะลุเส้นคอขึ้นไป จะเป็นสัญญาณยืนยันว่าราคามีแนวโน้มจะกลับตัวขึ้น

การใช้รูปแบบหัวและไหล่ในการวางแผนเทรด

นักเทรดสามารถใช้รูปแบบหัวและไหล่หรือหัวและไหล่กลับด้านในการวางแผนการเทรด ดังนี้:

• เข้าสถานะขาย: เมื่อราคาทะลุเส้นคอในรูปแบบหัวและไหล่ปกติ
• เข้าสถานะซื้อ: เมื่อราคาทะลุเส้นคอในรูปแบบหัวและไหล่กลับด้าน

ข้อดีและข้อเสียของการใช้รูปแบบหัวและไหล่

• ข้อดี: ช่วยให้นักเทรดสามารถคาดการณ์การกลับตัวของราคาได้แม่นยำและสามารถใช้ควบคู่กับตัวชี้วัดทางเทคนิคอื่น ๆ เพื่อยืนยันสัญญาณการเข้าเทรด
• ข้อเสีย: หากไม่มีการยืนยันจากปริมาณการซื้อขายหรือเครื่องมือทางเทคนิคอื่น อาจทำให้เกิดสัญญาณหลอก

บทสรุป

รูปแบบหัวและไหล่และหัวและไหล่กลับด้านเป็นรูปแบบทางเทคนิคที่มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์แนวโน้มการกลับตัว นักเทรดสามารถนำมาใช้ในการวางแผนการเข้าและออกจากตลาดได้อย่างแม่นยำ โดยควรใช้ควบคู่กับเครื่องมืออื่นเพื่อยืนยันแนวโน้ม